หนุ่มโรงงานผันตัวเป็นโจรลักสายไฟชาวบ้าน ช่วยกันตะครุบตัวไว้ได้ แม่โผล่เข้ากอดลูกพร้อมน้อยใจทำไมถึงมาขโมยแบบนี้โจรปล่อยโฮร้องไห้แม่จ๋าช่วยด้วยไม่อยากติดคุก
วันที่ 24 พ.ย.2567 ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณถนนชุมชนหมู่บ้านหนองละลอก ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ชาวบ้านได้ช่วยกันล้อมจับหัวขโมยลักตักสายไฟส่องสว่างริมทางถนน
โดยนายแดง อายุุ 50ปี ชาวบ้านในพื้นที่ได้ขับขี่ จยย.พ่วงข้าง ผ่านมาเห็นคนกำลังขุดดินอยู่ใต้ฐานเสาไฟส่องสว่าง ซึ่งคนร้ายเอาป้ายไวนิลมาบังตบตาเพื่อไม่ให้คนเห็น ก่อนจะมีรถจักรยานยนต์ สีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน วิ่งเข้าไปจอดข้างในป่า นายแดงจึงได้โทรแจ้งตำรวจ และชาวบ้าน จนมาล้อมจับ คนร้ายไว้ได้ 1 คน คือนายบาส อายุ 25 ปี ส่วนชายอีกคนได้ทิ้งเสียม คีม อุปกรณ์ ตัดสายไฟหนีไป
หลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานแม่ของนายบาสคนร้าย(เสื้อสีชมพูเบลอหน้า) มาที่เกิดเหตุ พอเห็นหน้าลูกชายแม่ก็โผกอดจูบลูกชายอันเป็นที่รัก บอกลูกทำไมลูกถึงทำแบบนี้ จนเกิดเป็นภาพแห่งความสลดใจในความรักของแม่ที่เห็นลูกมากระทำความผิด
และเมื่อนายบาสคนร้าย(เสื้อฟ้าเบลอหน้า) เห็นหน้าแม่ก็ได้แต่ร้องไห้บอกผมรักแม่ “แม่ช่วยผมด้วย ผมไม่อยากติดคุก ผมจะไม่ทำแล้ว แม่หาเงินมาประกันบาสด้วย หรือจะให้ผมทำงานใช้หนี้ที่ผมลักสายไฟมาก็ได้ เป็นแสนผมก็จะใช้ผมไม่อยากติดคุกครับแม่”
แม่นายบาสเล่าว่า ตนทำงานเป็นแม่บ้านแห่งหนึ่งอยู่กับลูกชาย 2 คน ไม่คิดว่าลูกจะทำแบบนี้ พอถามว่าลูกจะไปไหน ลูกก็มักจะตอบว่าไปหาเพื่อน ไม่คิดว่าลูกจะมาแอบขโมยตัดสายไฟ จนชาวบ้านเดือดร้อนแบบนี้ ตนก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปประกันตัวลูกชาย
ด้านนายบาสเล่าว่า ตนทำงานโรงงานเงินเดือน12,000บาท ช่วงนี้ไม่มีโอที จึงไม่พอกิน อาศัยวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดโรงงาน ออกตระเวนก่อเหตุ วันนี้ตนมากับเพื่อน ชื่อนายเอ มาลักตัดสายไฟไปขายที่ร้านขายของเก่า ทำมา4-5ครั้ง ได้เงินพันกว่าบาท เอามาแบ่งกันคนละครึ่งกับเพื่อน
โดยทาง อบจ.ระยอง ซึ่งเป็นเจ้าของสายไฟได้เข้ามาที่เกิดเหตุ โดยบอกว่าจุดดังกล่าวมักจะมีหัวขโมยมาลักตัดสายไฟประจำทำให้ไฟดับถนนมืดเป็นทางยาวจนชาวบ้านเดือดร้อนและทำให้เกิดอุบัติเหตุเป็นประจำด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านค่าย ได้พาคนร้ายชี้จุดลักสายไฟ ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนเพื่อขยายผลจับกุมคนร้ายที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
อย่างไรก็ตามเคสนี้ฝากเป็นอุทาหรณ์สำหรับหัวขโมยทั้งหลายที่ทำงานประจำหาเงินได้แบบสุจริตก็ดีอยู่แล้วมาขโมยแบบนี้ผลกระทบเป็นวงกว้าง พอถูกจับได้จะมาสำนึกผิดตอนนี้ ช่างน่าสงสารพ่อแม่ที่เห็นลูกทำไม่ดี
สุดท้ายเศรษฐกิจไม่ดีก็ต้องขยันยิ่งขึ้นหางานสุจริตทำไม่ใช่มาเป็นหัวขโมยแบบนี้
