ติ๊กต๊อกเป็นเหตุผัวแทงยับ
พี่ชายผู้ตายใจดีซื้อข้าวผัดกระเพรามาให้แต่ให้คนอื่นเอาไปให้ ทนเห็นหน้าไม่ไหว
เมื่อเวลา 12.00 นวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 จากเหตุการณ์ผัวหึงโหดแทงเมีย ดับเมื่อเช้าวานที่ผ่านมา
นายประไพ สิงหะ อายุ54 เป็นพี่ชายผู้เสียชีวิตคนละแม่ พ่อเดียวกัน เล่าว่า น้องสาวของตน นางสังวาน หมื่นทอง อายุ 48 ปี สามีของเขาผู้ก่อเหตุชื่อนายนะเรศ สุขอินทร์ อายุ 49 ปี
เขาอยู่กินกันมาได้ 4 ปีแล้วต่างคนต่างมีลูกติดแต่ไม่ได้มีลูกด้วยกัน แต่น้องสาวของตนนั้นชอบเล่น tiktok ช่วงนี้เล่นเยอะไปหน่อยและสามีเขาคิดว่าน้องสาวของตน มีกิ๊กอยู่ใน tiktok นั้นตนก็ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่แต่ส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าจะมี เพราะน้องสาวของตนก็เล่นติ๊กต๊อกมานานแล้วและเมื่อเช้าก็ยังออกไปซื้อของด้วยกันอยู่เลย ไม่น่าที่จะมาทะเลาะกัน จากเรื่องโซเชียลจนบานปลายฆ่ากันตายแบบนี้ เช้านี้ได้ซื้อข้าวกระเพราหมูสับมาให้นายนะ ผู้ก่อเหตุแต่ตนขอไม่เอาไปให้เพราะไม่อยากเห็นหน้าให้พี่สะใภ้เอาขึ้นไปให้ ส่วนตัวแล้วตนไม่อยากพูดคุยอะไรทั้งสิ้นกับคนแบบนี้ขอให้กฎหมายจัดการและขอให้เขาชดใช้กรรมในสิ่งที่เขากระทำขึ้น
เจ้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานระยองตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตพบ สภาพศพด้านหน้ามีร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคม 13 แผลด้านหลัง 3 แผล รวมกันทั้งหมด 16 แผล และ 1 ใน 16 แผลมีแผลหนึ่งสยองถูกแทงจนหูขาด เจ้าที่ตำรวจสภ.สำนักทอง จังหวัดระยอง รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทำแผนแทงเมีย16แผลดับอดใจไม่ไหวลูกชายผู้เสียชีวิตเห็นหน้าพ่อเลี้ยงแทงแม่ดับเจ้าหน้าที่ตำรวจและญาติรีบเข้าห้ามลูกสาวยันไม่ให้อภัยเด็ดขาดแม่บอกให้รอจะมารับไปทำบุญด้านผู้ก่อเหตุพูดแต่เพียงขอโทษ
เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำนักทอง จังหวัดระยองควบคุมตัวนายนะเรศ สุขอินทร์ หรือนะอายุ 49 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ขณะนั้นนายณัฐพงศ์ วนาไทยสงค์ อายุ 31 ปีลูกชายคนโตของผู้เสียชีวิตเสื้อสีขาว เผยไม่ให้อภัยผู้ก่อเหตุเด็ดขาด ขณะเห็นหน้าผู้ก่อเหตุนั้นห้ามใจไม่ไหวเกือบจะมีเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและญาติญาติได้ห้ามเอาไว้ก่อนที่นายนะผู้ก่อเหตุยกมือไหว้และพูดเพียงขอโทษ
นางสาวน้ำอายุ 19 ปี เสื้อสีดำ ลูกสาวคนเล็กของผู้เสียชีวิตเผยพร้อมน้ำตาว่า นางสังวาน แม่ของตนมีลูกสี่คนนายณัฐพงศ์เป็นพี่คนโตและตนเป็นลูกคนสุดท้องอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการส่วน ลูกคนที่สามและที่สี่อยู่บุรีรัมย์ เตรียมจัดงานเพื่อรอรับร่างของแม่
ลูกสาวคนสุดท้องเผยอีกว่า สุดรันทดใจเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาแม่ของตนโทรมาหาตนว่าจะมารับตนพาไปทำบุญตนก็รอแต่แม่ก็ยังไม่มาจนพี่สาวโทรมาบอกว่าแม่เสียชีวิตแล้วในตอนนั้นยังไม่อยากจะเชื่อคำพูดของพี่สาวเลย
ซึ่งตนก็เคยเจอนายนะแต่ไม่ได้สนิทกัน เท่าที่ทราบเขาเป็นคนใจดีมากไม่เคยทำร้ายแม่มาก่อน และแม่เองก็ไม่เคยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของแม่และเขาให้ฟัง
และในช่วงเที่ยงของวันนี้ทางญาติจะรับศพของผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดบุรีรัมย์บ้านเกิด
