สีหน้าหดหู่เศร้าสร้อยของผู้เป็นแม่หิ้วถุงข้าวเยี่ยมลูก 2 ใน 3 ผู้ต้องหาแก๊งลักถังน้ำแข็งยามค่ำคืนทำหดหู่ความรักของแม่สอนสั่งเสมอไม่ฟัง
ดื้อรั้น คิดคบโจร
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ห้องสืบสวน สภ.ห้วยโป่ง จังหวัดระยอง นางเอ (นามสมมุติ ใส่หมวกกันน็อก เบลอหน้าด้วย ) ผู้เป็นแม่ของนายน็อต อายุ 24 ปี เสื้อสีเทา ผู้ต้องหาคนที่ 1 ของแก๊งลักถังน้ำแข็ง เผยว่าวันนี้มาเยี่ยมลูกซื้อข้าว ก๋วยเตี๋ยวมาด้วยกลัวลูกหิวข้าว ตนเสียใจมาก เคยบอกห้ามเตือนแล้วว่าไม่ให้ไปคบหรือไปไหนมาไหนกับนายเอ เพราะเขามีพฤติกรรมขโมยถังน้ำแข็งมาบ่อยเจ้าของห้องเช่าทราบก็ไล่ออกไป แต่ลูกชายตนก็ไม่ค่อยฟัง จนมาโดนคดีแบบนี้เตือนสั่งสอนเสมอแต่ไม่จำดื้อรั้นเป็นโจร
นางสาวชมพู (นามสมมุติ เบลอหน้าด้วย เสื้อสีส้ม) เมียของนายเปา (เสื้อสีม่วง) เผยว่า ตนไม่รู้เลยว่าผัวไปทำอะไร ไปกับใคร รู้ก็วันนี้ตำรวจมาจับ ตนเลยซื้ออาหารมาให้ ตนเสียใจมากที่ผัวต้องมาโดนคดี ต่อจากนี้ตนจะอยู่ยังไงก็ยังไม่รู้ คงต้องหางานทำ
สำหรับการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยโป่ง หลังรับแจ้งเหตุวันที่26 มกราคม เวลา 00.30 น.ว่ามีโจร2คนมาขโมยถังน้ำแข็งที่ซอยเคหะชุมชน1 ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง หลังจากนั้นสืบทราบจนขยายผลได้ว่า แก๊งนี้จะมีกัน 3 คน วันที่ 26 มกราคม มีนายน็อต ซึ่งเป็นคนขี่จยย.มาและมีนายเอซ้อนท้าย นายเอได้ลงมายกถังน้ำแข็งขึ้นซ้อนจยย.ไป หลบหนีไปทางหน้าเทศบาลเมืองมาบตาพุด โดยกล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้
จากนั้นมีการขยายผลถึง วันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายเอ นายเปาและนายน็อต ใช้จยย. จำนวน2 คัน นายเอ เป็นคนขี่ จยย. ให้นายเปาและน็อตช่วยกันยกถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ขึ้นท้าย และอีก1คัน มีนายน็อตเป็นคนขี่ จยย. นายเปาเป็นผู้ซ้อนและยกถังน้ำแข็ง ขึ้นจยย. กล้องวงจรปิดจับภาพขณะขโมยที่ร้านอาหารข้างโรงเรียนวัดชากลูกหญ้าได้( ภาพจากตำรวจเป็นคลิปภาพนิ่ง)
จากนั้นสืบจนทราบแน่ชัดว่าพักอาศัยอยู่ในชุมชนห้วยโป่ง จึงได้เชิญตัวมาสอบสวนที่ สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง
นายน็อต อายุ 24 ปี(เสื้อสีเทาเบลอหน้าด้วย) เล่าว่า คืนวันที่ 26 มกราคม นายเอได้ชวนตนไปขี่รถเล่น ตนจึงเป็นคนขับ เมื่อถึงร้านอาหารหน้าซอยเคหะชุมชน1 นายเอให้ตนจอดตนก็จอด เขาก็ลงไปยกถังน้ำแข็งและก็ให้ตนขับรถไปทางเทศบาลเมืองมาบตาพุด พอถึงป่ามันสำปะหลังเขาก็ให้ตนจอดเอาถังวางไว้ที่ป่ามัน และก็กลับบ้าน เช้ามาเขาก็เอาเงินมาให้ตน 300 บาท คืนนั้นตนทำเป็นครั้งแรก ส่วนครั้งที่ 2 ก็วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 กล้องวงจรปิด(ภาพนิ่ง) จับภาพได้ขณะก่อเหตุข้างโรงเรียวัดชากลูกหญ้า จึงยอมรับสารภาพ ว่าก่อเหตุจริง
ตนสำนึกผิดแล้วสงสารแม่ต่อไปพ้นโทษออกมาจะไม่ทำอีก ฝากถึงวัยรุ่นเห็นก็อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง สุดท้ายแล้วโดนตำรวจจับ
ส่วนนายเปา อายุ 30ปี (เสื้อม่วงเบลอหน้าด้วย) เล่าว่า ตนพึ่งเคยไปเป็นครั้งแรกวันที่ 6กุมภาพันธ์ นายเอเขาไม่ได้บอกว่าจะชวนไปขโมยถังน้ำแข็ง แต่พอไปถึงหน้างานแล้วก็ตกกระไดพลอยโจนได้เงินมา300บาท ยังไม่คุ้มเลย โดนตำรวจจับ
นายเปายังทิ้งท้ายอีกว่า ตำรวจถ้าไปเร็วกว่านี้ 5 นาทีได้ตัวนายเอแน่นอน เพราะเขาออกไปสมัครงานก่อนหน้าตำรวจมาแป๊บเดียวเอง ทีทำไปก็เพราะครอบครัวตนตกงานจำใจทำจริงๆ
ส่วนทางด้านนายเอนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำรองเท้าที่ใส่ในวันที่เกิดเหตุมาเป็นของกลาง ซึ่งด้านเมียของนายเอนั้นยืนยันว่าคู่นี้เป็นของนายเอแน่นอน
นายน็อตฝากบอกนายเอ ด้วยว่า “เอเมื่อรู้แล้ว้วว่าพวกตนโดนจับหนีไปไม่รอดแน่มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริงจึงทำ บันทึกจับ กุมนำตัวส่งพนักงาน สอบสวนดำเนินคดีฐานลักทรัพย์ในเคหสถานเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามนางเอ ผู้ เป็นแม่ของนายน็อต ยังคงมองลูกชายด้วยสายตาเศร้าสร้อยตลอดการสอบสวน พร้อมเผยกับผู้สื่อข่าวว่าสั่งสอนอยากให้ได้ดีไม่คิดลูก มาเป็นโจร


