


เมียเจ้าของร้านเดือด โจรสาวอยากสวยแต่ไม่ลงทุน มาขโมยเครื่องประทินผิวในร้าน เสียหายหลักพันเศรษฐกิจแบบนี้มือเท้าครบทำไมไม่ไปหางานทำ รีบสั่งผัวไปแจ้งความด่วน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.มาบตาพุด จังหวัดระยอง รับแจ้งมีเหตุโจรลักขโมยของภายในร้านสะดวกซื้อที่ ซอยประปา1 เขตเทศบาลนครมาบตาพุด มูลค่าความเสียหาย 1,101บาท
สอบถามนายณัฐพงษ์ เงินปุ่นนาค อายุ 40 ปี เจ้าของร้านเผยว่า เมื่อช่วงเช้านี้ เวลา 11.00 น. มีสาววัยกลางคน อายุน่าจะ 45-50 ปี ใส่กางเกงขายาวสีดำ เสื้อคลุมแขนยาวสีแดง เสื้อด้านในสีขาว มีกระเป๋าลายขาวดำ ห้อยอยู่ที่แขน ใส่แมสปิดบังใบหน้า ปั่นจักรยานสีแดงมาจากท้ายซอย มาถึง ตรงเข้าที่ล็อคชั้นวางเครื่องสำอาง เขาหยิบน้ำยาปรับผ้านุ่มก่อน 1 ถุง หยิบสบู่เนเนทเอ็กตร้าไวท์ จำนวน 2กล่อง และ เบนเนทสีส้ม วิตามินซีอีก 2 กล่อง ครีมทาผิวซิตร้า 3 ขวด โกยใส่กระเป๋าที่สะพายมา จากนั้นเดินวนไปหยิบ ผงชูรส ถุงละ 1 กิโลไป 2ถุง และรสดี ถุงละ1โลไป 2 ถุง และยาสีฟัน จากนั้นเดินมาที่เคาเตอร์เพื่อจ่ายเงิน แต่นำของมาวางแค่ น้ำยาปรับผ้านุ่ม1 ห่อ และ ผลชูรส1ห่อ จากนั้นทำท่าทางหาเงินในกระเป๋า และบอกว่า ลืมเอาเงินมา จะกลับไปเอาเงินที่บ้านก่อน บ้านอยู่แถวนี้เอง ซึ่งตนก็ไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนจึงไม่ได้คิดอะไร
ซึ่งแฟนตนเห็นแล้วท่าทางดูรีบร้อน จึงให้ตนดูกล้องวงจรปิด ก็ชัดเลย ขโมยของ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยเจอ คนที่ทำพฤติกรรมแบบนี้แต่ตอนนั้นไม่ได้แจ้งความ เพราะราคาสินค้าไม่ได้มาก แต่รอบนี้ไม่ให้แล้วซึ่งโจรก่อนหน้าคนนี้ตนไม่มั่นใจว่าคนเดียวกันหรือไม่แต่พฤติกรรมเหมือนกัน
น.ส.สุรีรัตน์ เงินปุ่นนาค อายุ 29 ปี ภรรยา เจ้าของร้าน เผยว่า โจรรายนี้ มาเอาแต่เครื่องสำอาง ทั้งสบู่ทั้งครีม อยากขาวอยากสวยแต่ไม่ลงทุน ตนก็ไม่ยอมแล้ว เพราะมูลค่าเสียหายหลักพัน ซึ่งทุกวันนนี้เศรษฐกิจก็ไม่ดี กำไร ต่อชิ้น บาท 2 บาท มือเท้าเขาก็มีครบ ไปหางานทำเถอะ ก่อนเร่งให้สามีไปแจ้งความทันที
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้นายณัฐพงษ์ เข้าพบชุดสืบสวน ทันทีเพื่อแจ้งเบาะแสของสาวอยากสวยคาดว่าไม่นานนี้จับได้แน่นอน