


ตำรวจท่องเที่ยวบุกตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอนิคมพัฒนา พบผู้ต้องสงสัยทำงาน ผิดวีซ่า ทั้งจีนและพม่า 40 ราย ด้านพม่าเผยมาตรวจบ่อยไม่เป็นเวล่ำเวลาเลยอยากให้เห็นใจกันบ้าง และถ้าคนไทยเอาเขาไปส่งพวกเขาจะถูกซ้อมอย่างหนัก เอาไปเป็นทาส
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าที่ชุดสืบสภ.นิคมพัฒนา จ ระยอง เข้าตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่ง ในนิคมปิ่นทอง 6 อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง
นายวัชรพงษ์ ศิริรักษ์ (เสื้อแขนยาวสีน้ำเงินแถบส้ม )
ผู้ช่วยสส.สว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์ ระยองเขต5พรรคประชาชน เผยว่า วันนี้ได้เข้าตรวจในพื้นที่โรงงานมีคนงานต่างด้าวร่วม 100 คนที่เข้าตรวจสอบและตรวจพบว่ามีจำนวน 40 คนที่ เอกสารนั้นยังไม่ครบถ้วน แบ่งเป็นชาวจีน 34ราย และชาวพม่า 6 ราย จึงเชิญตัวส่งพนักงานสอบสวนที่ สภ.นิคมพัฒนา
นายวัชรพงษ์ เปิดเผยอีกว่า จากการที่ตนลงพื้นที่ตรวจสอบ ก็พอจะทราบว่า สิ่งที่ ตนได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ แรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาแบบผิดกฎหมายนั้น บางคน อาจจะมองว่าคนไทยกลั่นแกล้งคนจีนหรือไม่ ซึ่งตนอยากอธิบายว่า ณวันนี้ถ้า เรายังละเลยและเพิกเฉย กับแรงงาน หรือนักลงทุนต่างๆที่เข้ามาหาผลประโยชน์กำไรจากบ้านเราแล้วขนออกไป บ้านเขาสุดท้ายแล้วเราจะไม่เหลือทรัพยากรอะไรไว้ให้ลูกหลานเลย
เพราะคนพวกนี้เขาเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์และนำเงินกลับบ้านเขาทั้งหมด แรงงานเองส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนและพม่าคนไทยจะมีเพียง 1 คนที่ในออฟฟิศเท่านั้น
หากจะเข้ามาทำงาน ก็ขอให้มาอย่างถูกกฎหมาย และปฏิบัติตามกฎหมายของบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาลงทุนและการใช้แรงงานต่างๆ
พ.ต.ท.กฤตพร แสงสุระ สว.กก.สืบสวน บช.ทท. (แปะแผลที่คิ้ว) เล่าว่าตอนได้ใช้กำลังเข้าตรวจสอบทั้งหมด 20 นาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เขาก็ให้ความร่วมมือดีจะมีแค่คนที่อยู่รอบๆกำแพง เป็นพม่าอาจจะตกใจเขาวิ่งหนีไป คนจีนเห็นพม่าวิ่งคนจีนก็วิ่งตามไปบ้าง แต่ก็สามารถตามกลับมาได้ทั้งหมด
บังต้า ชาวพม่า (ใส่หมวก)หัวหน้างานบริษัทแห่งหนึ่งอายุ 48 ปี เล่าว่า ตนไม่ได้ เกี่ยวข้องกับชาวพม่าที่ถูกจับมา แต่ แต่มาช่วยเป็นล่ามแปลภาษาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ซึ่งพม่าทั้ง 6 คนที่จับมาได้นั้นหัวหน้างานเขาหนีไปแล้ว และพวกเขา ก็เล่าว่าอยากให้เห็นใจพวกเขาบ้าง เขาเข้ามาทำงานได้เพียง 13 วัน มาเป็นช่างก่อฉาบ พวกเขาไม่มีเงินที่จะมาแบบถูกกฎหมายก็เลยหนี เข้าประเทศเพิ่มมาหางาน
หากจับ พวกเขากลับไปส่ง พวกเขาก็ลำบาก บางคนก็ถูกซ้อม แต่ก็เข้าใจการทำงานของไทย แต่บางทีก็บ่อยเกินไป กลับมาทีก็เอามานั่งห้ามไปให้ทำอะไรไปไหนกว่าจะเสร็จก็หลายชั่วโมง
นายนพพร หลำเจริญ กำนันแม่น้ำคู้ เผยว่า บ้านเราอยู่ในช่วงของการพัฒนาอยากให้ผู้ประกอบการ เน้นในเรื่องของเอกสารให้มันถูกต้องอะไรที่มันไม่ถูกต้องก็ต้องช่วยกัน ไม่ใช่นั่นแล้ว เจ้าที่บ้านเมืองก็ต้องบุคคลตรวจจับอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ
ด้าน สส.ระยอง นายกฤช ศิลปชัย จากการตรวจสอบแล้วก็พบว่าแรงงานจีนทั้ง 34 คนนั้นมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวแต่ก็แอบหลับลอกเข้ามาทำงาน ในพื้นที่ใช้ก่อสร้าง ซึ่งคนพวกนี้เข้ามาในวีซ่าท่องเที่ยว มาแอบทำงานเงินก็ไม่ได้เข้าระบบเพราะฉะนั้นบ้านเราจะไม่ได้อะไรเลย
หลังจากการที่เคยไปตรวจสอบบางโรงงานนั้นนำวัสดุออกมาจากประเทศจีนเอง ซึ่งต้นทุนของเขาถูกมากๆในึเรื่องของภาษีบ้านเขาถ้านำสินค้าออกมาก็ลดภาษีให้อีก 13 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง ผู้ประกอบการในบ้างเราเองนั้นสู้เขาไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นแล้ว นักลงทุนจีนนั้นเรียกได้ว่า ไม่ได้ใช้ทรัพยากรบ้านเราเลยแม้แต่ชิ้นเดียว มีแต่กอบโกยออกไป หากเป็นแบบนี้แล้วไทยเราได้อะไร การที่เราให้ฟรีวีซ่าประเทศจีนและดึงนักลงทุนจีนเข้ามานั้นเราควรจะต้องทบทวนกันใหม่ว่าทำแบบนี้ประเทศไทยเรา ได้อะไรกลับมาบ้าง
และในส่วนของแรงงานพม่าอีกจำนวน 6 คนนั้น ก็หนีเข้ามา แบบผิดกฎหมาย เพื่อ ใช้แรงงาน
ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. นิคมพัฒนา รับ แรงงานทั้งหมดถึง 40นาย เข้าไว้ที่สภ.นิคมพัฒนาซึ่งโทษของเขาก็มีการปรับ และ ทางสภ.จะนำตัวไปส่งให้กับตำรวจตม.ต่อไปเพื่อผลักดันเขากับประเทศ

