


คุณตากับอาชีพตีผึ้งขายมากว่า 40 ปี เผยเคล็ดลับทีเด็ดหากจะกินน้ำหวานให้อร่อยต้องเป็นรังผึ้งแก่ถ้าจะกินทั้งรังทั้งน้ำหวานต้องรังผึ้งอ่อน เปรียบเหมือนมะพร้าว ยิ่งอ่อนยิ่งหวานยิ่งแก่ยิ่งมัน ตีผึ้งมากวาด 40 ปีเดินต่อยเป็นหมื่นๆครั้ง จนร่างกายไม่แพ้สนิทกับผึ้งแล้ว
ดูคลิปกดลิงค์ด้านล่าง
https://www.facebook.com/share/v/1BpaN9ksbn
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 23 สิงหาคม 2568 ที่ริมถนนสายบูรพาพัฒน์ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ผู้สื่อข่าวเห็นคุณตาเดินด้อมๆมองๆตามต้นไม้ริมทางถนน จึงเข้าไปสอบถาม นายสุรชัย มาลัยลักษณ์ อายุ 64 ปี อาชีพตีรังผึ้งหาของป่าเลี้ยงชีพ เล่าว่า ตนตีรังผึ้งขาย ตั้งแต่อายุ 20 ปี และก็อาชีพขายรังผึ้งนี่แหละที่ทำให้ส่งลูกเรียนจนจบตอนนี้ลูกทำงานมีครอบครัวแล้ว ตนก็ยังตีรังผึ้งอยู่เลี้ยงจากลูกมาเป็นหลานแล้วซึ่งเคล็ดลับการตีรังผึ้งของตนนั้นไม่ได้มีชุดป้องกันอะไรเพียงแต่ใส่กางเกงสวมเสื้อผ้าตามปกติ ใช้จุดธูปจุดลมควันไล่ตัวผึ้งออกไปซึ่งที่ผ่านมาถูกผึ้งต่อยกัดจนชินไปกัยผึ้งแล้ว
ส่วนช่วงนี้จะเป็นผึ้งมิ้มซะเป็นส่วนมาก ผึ้งใหญ่ผึ้งหลวงนั้นเขาจะมาแค่ปีละครั้ง เดือนที่มีรังผึ้งขายเยอะที่สุดก็จะเป็นเดือน มีนาคม เมษายน พฤษภาคม ของทุกปี
ช่วงนี้จะขายได้ตกวันละ 1,000 บาท
ลุงยังเล่า ถึง ประสบการณ์ที่ตีผึ้งมา ร่วม40ปีอีกว่า ผึ้งไม่ใช่แต่เพียงว่าต้องอยู่บนต้นไม้สูงอย่างเดียว บางทีถ้าเป็นช่วงไหนหน้าลมแรงเขาก็จะทำรังอยู่ใกล้ๆโคนต้นไม้และถ้าช่วงไหนฝนตกเขาก็จะขึ้นไปทำรังอยู่บนต้นไม้สูง
ส่วนทีเด็ดของการกินรังผึ้งให้อร่อยนั้นก็เหมือนมะพร้าวถ้าอ่อนก็กินได้ทั้งน้ำทั้งเนื้อ ถ้าแก่หน่อยเนื้อก็จะ ไม่ค่อยอร่อย เอามาเป็นกะทิ
รังผึ้งก็เหมือนกันถ้ารังผึ้งสีเข้มๆอันนี้คือรังแก่ น้ำผึ้งนั้นจะหอมหวานเหนียว กว่ารังผึ้งที่สีอ่อนๆ แต่กินรังจะไม่อร่อย
ส่วนรังผึ้งที่เป็นสีเหลืองนวลออกใสๆจะเป็นรังและตัวอ่อน รสชาติรังก็จะหวานๆมันๆ แต่น้ำผึ้งจะไม่หวานและเหนียวเท่ากับรังผึ้งแก่
อย่างไรก็ตามหากใครอยากกินรังผึ้งช่วงนี้จะเป็นผึ้งมิ้ม ก็มาหา ตนได้ที่บริเวณโรงเรียนวัดบ้านฉาง ตนขายทุกวันจันทร์ – ศุกร์ รับประกันรังผึ้งและน้ำผึ้งของแท้แน่นอนตีเองกับมือส่วนราคาขอบอกเลยว่าไม่แพงชอบใจต่อรองได้เริ่มที่ราคาหลักร้อยต้นๆ