พี่สาวร่ำไห้น้ำตาแตกหลังมาถามความคืบหน้าคดีน้องชายและเพื่อนถูกทำร้ายหลังช่วยลากรถอาบังชาวเมียนมาขายโรตีตำรวจยันจะติดตามผู้ก่อเหตุได้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานจนอึดอัดใจกลับบ้านร้องลั่น!!ใครจะช่วยไม่อยากมาที่โรงพักนี้อีกแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ที่สภ. แกลง จังหวัดระยอง นางเบญจา เจริญกิจ อายุ 49 ปี พี่สาวของนายอานนท์ ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนปากแตก ได้พาน้องชายมา สอบถามความคืบหน้าทางคดีหลังโดนทำร้ายร่างกายจากเหตุเพราะไปช่วยอาบังขายโรตีลากรถ
ด้าน สารวัตร (สอบสวน) สภ.แกลง จ.ระยอง เจ้าของคดีเผยว่า คดีที่เกิดขึ้น ทางตำรวจอยู่ระหว่างทำการสืบสวนสอบสวน ซึ่งในขณะนี้
ยังไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครมาทำร้ายด้วยจุดประสงค์อะไร ซึ่งทางผู้เสียหายเองก็ต้องช่วยเหลือตัวเองบ้าง เพราะตำรวจก็ทำตามขั้นตอนแจ้งทั้งชุดสืบและตู้ยามต่างๆไว้แล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยอมรับว่า พูดจริงในวันแรกที่เข้ามาแจ้งความ ได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแกลงและให้ไปถามพวกกำนันผู้ใหญ่บ้านว่ารถประเภทนี้แบบนี้ ใครเป็นคนใช้งานถ้าทราบแล้วทางตำรวจจะได้ออกหมายเรียกถูก
หลังจากนั้นผู้เสียหาย
จึงได้สอบถามหาผู้กำกับ สภ. แกลง จ.ระยอง รับแจ้งว่าติดธุระด่วนจึงยังไม่สามารถเข้าพบได้
เมื่อถึงบ้าน นางเบญจา ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว พร้อมน้ำตาว่า ตนไม่อยากมาที่โรงพักนี้อีกแล้ว มาสอบถามความคืบหน้าทีไร ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดุใส่ทุกครั้งซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อในเมื่อคนที่มาทำร้ายน้องชายและเพื่อนๆเป็นใครก็ไม่รู้และตำรวจก็บอกว่าตำรวจก็ไม่รู้
ตนสงสัยว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นรถกระบะ 2 คัน และ คนที่มาทำร้ายร่วม 20 คน ทำไมตำรวจ ไม่บอกเหมือนตำรวจคนอื่นว่าเดี๋ยวขอเวลาดูกล้องวงจรอยู่ครับ หากทราบแล้ว จะออกหมายเรียกหรือจะทำตามขั้นตอนต่างๆ แต่สิ่งที่เขาพูดทำให้ตนนั้นรู้สึกถอดใจแล้วก็ไม่รู้ว่าคดีของน้องชายตนจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ หรือจะปล่อยให้ระยะเวลามันผ่านไป จนคดี หมดอายุความ และก็แจ้งแค่ว่าไม่สามารถตามตัวผู้ก่อเหตุได้ และตนก็ไม่รู้ว่าต่อจากนี้พอเข้าไปตามคดีตำรวจจะขู่อะไรพวกตนมาอีก ซึ่ง ณ ตอนนี้ตนไม่อยากเจอตำรวจเจ้าของคดีคนนี้แล้วและไม่อยากมาที่โรงพักนี้อีกแล้ว
อย่างไรก็ตามจาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้สื่อข่าวตั้งประเด็นสงสัยว่า กลุ่มวัยรุ่นได้ถูกทำร้ายขณะช่วยอาบังลากจูงรถขายโรตี อาจเป็นเหตุในเรื่องของการค้ามนุษย์แรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฏหมาย หรือ อาบังมาขายโรตีแย่งอาชีพคนไทยจนถูกกลุ่มคนไทยพาพวกมารุมกระทืบ หรืออาบังขายโรตีคนนั้นไม่จ่ายค่าหัวคิดที่เข้าเมืองโดยผิดกฏหมายก็อาจเป็นไปได้ เพราะล่าสุดอาบัง ขายโรตีคนดังกล่าว ได้หายออกจากพื้นที่ไปไม่เห็นหน้าเห็นตาอีกเลย ช่างน่าสงสัยจริงๆ