แม่ยังห่วงลูกสาว ถึงจะติดต่อมาแล้ว แต่มีการร้องไห้ น้ำเสียงดูไม่ดี ถึงจะบอกว่าทำงานแล้ว สบายดี ขอร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามลูกสาวกลับ
เมื่อเวลา 12.00น วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง นางสาววาสนา หรือวาส อายุ 35ปี เล่าว่า เมื่อคืนเวลา19.00น. ลูกสาว น้องไข่มุก อายุ 14 ปี ตนได้ติดต่อกลับมาแล้ว ลูกบอกว่า สบายดีก่อนวางสายไป ด้วยความเป็นห่วงตนจึงโทรกลับไปหาลูกอีก และน้องก็บอกว่าน้องอยู่ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เขายังไม่เอาน้องข้ามประเทศ
แต่ขณะที่พูดคุย น้ำเสียงลูกตนร้องไห้ และได้ยินเสียงผู้ชายพูดแทรกอยู่ตลอดว่าจะร้องไห้ทำไม แม่จึงไม่กล้าถามน้องมาก กลัวว่าเขาจะทำอะไรน้องหรือไม่ และไม่อยากให้เขาได้ยินจึงคุยแบบรีบๆแล้ววางสายไป
วันที่น้องเดินทางไปน้องไม่มีเงินและเอกสารไป และเมื่อคืน (24/2/68) 4ทุ่มกว่าๆ น้องก็ทักมาหาว่าน้องเลิกงานแล้ว กำลังจะอาบน้ำพักผ่อน ตนก็ไม่กล้าถามอะไรมากเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัยของน้อง
ก่อนที่ตนจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ่ตนได้คุยกับพ่อของน้องซึ่งเลิกลากันแล้ว พ่อของน้องเล่าว่า ได้คุยกับลูก ลูกบอกว่า สัมภาษณ์งานที่ฝั่งไทยไม่ผ่าน เขาจึงขายน้องไปยังฝั่งกัมพูชาในราคา 70,000 บาท หากอยากได้น้องคืนต้องจ่าย ในราคา 80,000 บาท
และตอนตีหนึ่ง น้องทักมาบอกว่า ขอทำงานให้ครบ 9 เดือนก่อน ให้ครบสัญญา กลัวเขาฆ่า มีพี่ที่เขาโดนหลอกมาก่อนหน้าเล่าให้ฟังว่าพวกนี้โหดร้าย
ซึ่งจากที่ตนได้รับข้อมูลมาจากเพื่อนๆของน้องที่บอกมา เขาไม่ได้ทำร้ายอะไรแต่เขากดดัน การกินอยู่นอนต้องอยู่ด้วยกันกับหญิงสาวคนอื่นๆ 7คนส่วนใหญ่เป็นคนจีน
ในส่วนนี้ยิ่งทำให้แม่เครียดและเป็นห่วงน้องมากขึ้น กลัวว่าคนที่หลอกน้องไปจะทำร้ายน้อง
และตอนนี้เบอร์แปลกๆโทรมาตนก็ไม่กล้ารับสายเลย กลัวเป็นพวกเขาโทรมาแล้วพูดอะไรผิดไปจะฆ่าน้องทิ้ง
ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามตัวน้องกลับมาให้แม่เร็วที่สุด แต่ก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปลวกแดงด้วยที่ ติดตามความคืบหน้าให้แม่อยู่ตลอด
ด้านเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเผยว่า ขณะนี้ตนได้ประสายไปยัง สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ข้อมูลเชิงลึกว่าน้องยังอยู่ในฝั่งไทย แต่การที่น้องติดต่อมาแล้วนั้นแสดงว่าน้องยังปลอดภัยดีอยู่ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่คลายความกังวลไปได้ระดับหนึ่ง เนื่องจากไม่ได้มีใครบังคับน้องไป
แนวทางการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นรถเก๋งสีเทาเข้ามารับน้อง ภายในหมู่บ้าน ซึ่งน้องเรียกรถและเดินทางไปเอง ส่วนที่จะโดนหลอกไปทำงาน ทางเจ้าหน้าที่ยังคงต้องขอเวลาสืบสวนกันต่อ ตอนนี้เร่งหาพิกัดน้องให้ได้ว่าอยู่พื้นที่ใดของ อรัญประเทศ เพื่อจะได้นำตัวน้องกลับมา
อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองต้องเพิ่มความระมัดระวัง บุตรหลาน เพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ลูกเราเวลาเล่นโซเชียล จะไปโดนใครหลอกบ้าง เช่นกรณีนี้ น้องติดต่อเองทั้งหมดและปิดบังข้อมูลแม่เนื่องจากแม่ไม่อนุญาตให้ไปทำงาน และน้องก็ยังหลอกคนที่ชักชวนว่าน้องอายุ 17ปี แล้ว เขาจึงให้น้องเดินทางไปหาที่สระแก้ว อย่างไรแล้วทางเจ้าหน้าที่จึงต้องพยามเอาข้อมูลจากเด็กว่าใครเป็นคนชักชวน และพาตัวน้องกลับมาให้เร็วที่สุด


