หญิงป่วยซึมเศร้าทิ้งเงินสดเฉียดแสนบาทก่อนหายตัวไปพนักงานแขวงการทางบ้านฉางเก็บได้โร่แจ้งตำรวจตรวจสอบพบมีสามีตามหายันเป็นเงินเมียเอาไปทิ้งก่อนหายตัวไป
เมื่อเวลา11:00 น.วันที่ 19 มีนาคม2568 พนักงานแขวงการทางบ้านฉาง จ.ระยอง กำลังตัดหญ้าแล้วสายตาหันไปเจอกระเป๋าสีชมพู วางอยู่ใต้พระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาล ที่ 10 จึงแง้มเปิดดูพบธนบัตรใบละ 1,000 อัดเต็มกระเป๋า ก่อนรูดซิปปิด รีบเข้าแจ้งตำรวจตามหาเจ้าของเงิน
น.ส.เจียมใจ อายุ49ปี และน.ส บัวไล ตอสี อาย 45ี ปี เล่าว่าขณะนั้นทำงานกันอยู่ พบกระเป๋าสีชมพู จึงได้แซวกับเพื่อนๆว่ามีเงินแสนอยู่ในกระเป๋าหรือเปล่า ตนจึงได้ไปเปิดดูก็พบเงิน อยู่ในกระเป๋าเป็นจำนวนมาก ไม่รู้ใครมาวางไว้ หรือทำหล่นหาย จึงรู้สึกสงสารเจ้าของเงินจำนวนดังกล่าว ตนและพนักงานแขวงการทางบ้านฉาง จึงรีบนำเงินจำนวนดังกล่าวไปให้โรงพักเพื่อหาเจ้าของ เพราะคิดว่าเจ้าของเงินต้องเดือดร้อน ตามหาเงินนี้อย่างแน่นอน
พ.ต.ท. ณัฐพงษ์ อัครเดชนิติพงษ์ สารวัตรงานป้องกันและปราบปราม สภ.นิคมพัฒนา ได้เชิญผู้ที่เก็บเงินได้ เข้าสอบถามก่อนจะเปิดกระเป๋า พบบัตรประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ ธนบัตรแบงค์1พันบาทในกระเป๋าได้จำนวน 65,000 บาท
จากนั้นจึงโทรหาเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ จนพยนาย ประเสริฐ พันธุ์ธุรี อายุ 53 ปี เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินของภรรยาตน ชื่อน.ส ศิริมล พัฒน์พงศ์กุล อายุ 42ปี ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หายออกจากบ้านได้3วัน ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค.พร้อมเงินสดดังกล่าว และมีแหวน2วง ต่างหูทอง2วง เธอออกบ้านมาบตาพุด จนถึงซ 10 ที่พบกระเป๋าก็ประมาณ30กิโล โดยเธอมักจะอ้างว่าโดนทำร้าย ทั้งที่ไม่มีใครทำร้าย ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงเพราะเธอไม่มีเงินติดตัว และไม่รู้ไปอยู่กับใคร จึงอยากวอนทุกท่านที่พบเจอ ให้ติดต่อกลับมา
โดยทางตำรวจสภ. นิคมพัฒนา จึงได้ให้นายประเสริฐ ลงบันทึกประจำวันเรื่องเงินที่เก็บได้ ถ้าเจ้าของเงินไม่มาติดต่อภายใน 1 ปี ก็จะต้องให้คนที่เก็บได้ และฝากประชาสัมพันธ์คนที่เก็บเงินหรือส่งของที่มีค่าต้องเข้าแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันเพราะอาจมีโทษถึงจำทั้งปรับ โดยทางตำรวจได้กล่าวชื่นชมพลเมืองดีทั้งสองขอให้เป็นแบบอย่าง ให้สังคมได้ดู และชื่นชมในความดีที่ทำในครั้งนี้ด้วย

