https://youtu.be/9u3WfV6mWEo?si=BJfNube8QtTquHnR
สุดอึ้ง หนุ่มลาวเดินเท้าเปล่ามาจากชลบุรีจะกลับประเทศลาวถามไปถามมาเผยสาเหตุโดนพิธีกรรมอะไรก็ไม่รู้ ทำให้สะลึมสะลือเดินมาแบบงงๆ โชคดีมีทองปากผีช่วยคุ้มครองไว้แม่ค้าใจบุญพาไปซื้อตั๋วรถ เมล์ขึ้นรถกลับบ้านไป
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ที่ ถนนสาย36 ชุมชนหนองบอน อ.นิคมพัฒนาจ.ระยอง น.ส.อารีญานันท์ มีสบาย อายุ23 ปี(เสื้อดำ) เล่าว่า คนลาวเขาเดินมาขอน้ำป้าของตนกิน เขาบอกหิวน้ำมาก ป้าตนจึงถามว่ามาจากไหน เขาบอกเดินเท้ามาจากชลบุรี ทำงานที่ร้านหมูกระทะริมบึง หนองรี จ.ชลบุรี ต้องการกลับประเทศลาว มีรถตู้ให้ดมอะไรก็ไม่รู้จนทำให้เขา สะลึมสะลือ แล้วก็ขับรถวนไปมา เขาจึงเดินมาที่นี่ และก็ยังไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน ป้าตนจึงทำอาหารให้กินและให้ตนช่วยแจ้งตำรวจ และชายชาวลาวก็ขอไปนอนที่ศาลา เพราะง่วง
สอบถามนาย น้อย สุทธิวง ชาวลาว (ซึ่งพูดจางงๆ วกไปวนมา มึนๆ พอจับใจความได้ว่า) ตนมาจากประเทศลาว มาทำงานที่ ร้านหมูกระทะริมบึง ต.หนองรี อ.เมืองชลบุรี มีใครก็ไม่รู้พาตนไปทำพิธีปิดหูปิดตา ให้ตนถอดเสื้อ รองเท้า เอาทิ้งไว้ จากนั้นตนก็จำอะไรไม่ได้ รู้แต่ว่าต้องกลับประเทศลาว
ทำงานเจ้าของร้านก็หาว่าตนบ้า และบอกให้ตนมาขึ้นรถตู้ เขาจะพาไปส่งที่ลาว แต่ห้ามให้ตน ชาจร์มือถือ ห้ามทิ้งขยะ ห้ามโทรหาใคร มีเงินติดตัวมา 100 บาท ก็ซื้อน้ำกินไปหมด แต่รถตู้ก็ขับรถวนไปมา ไม่ไปส่งซักที ตนจึงออกเดินมา รองเท้าและเสื้อก็ไม่มี ไปให้ตำรวจชลบุรีจับ เขาก็ไม่จับ เอาอะไรมาให้ดมก็ไม่รู้ ท้องตนเดือด ผะอืดผะอมไปหมด จากนั้นตนก็ไม่ค่อยรู้เพราะมีอะไรก็ไม่รู้ปิดหูปิดตา จนเดินทางจากชลบุรี มาตั้งแต่เที่ยงวันเดินมาเรื่อยๆ ทั้งวันทั้งคืน จนมาถึงศาลาสีเหลืองเจ็บเท้ามากกะจะพัก แต่เห็นมีร้านค้า ตนจึงเดินมาขอน้ำเขากิน แต่เขาใจดีให้ข้าว เสื้อและรองเท้ามาด้วย
ตนนั้นก็มีของสำคัญมาด้วย คือทองปากผี เป็นของญาติที่ตายไปแล้ว ก่อนเผาตนเอาออกมา (คนไทยเรียกเงินปากผี) ซึ่งตนคิดว่าทองปากผีนี้บอกให้ตนกลับบ้าน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพอจับใจความได้เท่านี้ ซึ่งเขาไม่มีเงินติดตัว แต่อยากกลับลาว จึงพยายามให้ตำรวจจับจะได้ไปส่งที่ลาวได้ แต่ตำรวจก็ไม่จับ และเขายืนยันว่าไม่ได้เสพยา แต่ผู้สื่อข่าวคิดว่า เขาอาจจะป่วย ถึงพูดจาไม่รู้เรื่อง
ด้านดาบตำรวจ กิตติศักดิ์ บัวพิน เจ้าที่สายตรวจตู้ยามหนองบอน สภ.นิคมพัฒนา เขามาตรวจสอบ เขามีพาสปอร์ตยังไม่หมดอายุซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับเขาเอาไปส่งที่ลาวได้ หากทำในกรณีนี้ ต้องเป็นคนที่หลบหนีเข้าเมืองมาจึงจะจับให้ตม. ส่งพลักดันกลับประเทศ เขาก็จะมีประวัติหลบหนีเข้าเมืองมา ซึ่งก็ไม่เป็นพลดีกลับตัวเขา
ด้านน.ส.อารีญานันท์ ยังเล่าอีกว่า ป้าตนให้เงินเขาไป 1,000 บาท ตนให้เพิ่มไป 250 บาท เพื่อให้เขามีติดตัวไว้ แล้วได้พาไปซื้อตั๋วกลับบ้าน ที่บขส.เพื่อให้เขาเดินทางไปมุขดาหาร ข้ามกลับไปประเทศตัวเอง
อย่างไรก็ตาม นี่ก็ถือว่าคุณป้าและ น.ส.อารีญานันท์ เป็นคนมีน้ำใจมากๆ ช่วยหนุ่มลาวให้ได้กลับบ้านสมใจ ถึงแม้จะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็ถือว่าได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หวังว่าหนุ่มลาวจะกลับถึงบ้านปลอดภัย
