ไม่ใช่แค่ซินเคอหยวนที่กระทบ อีก 13 โรงงานที่ใช้เตาIF หากต้องเปลี่ยนจริงๆแรงงานไทย รัฐมีนโนบายช่วยเหลือหรือยัง
การเข้ามาของทุนจีนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในพื้นที่ จังหวัดระยอง ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ดังกล่าวตามที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและ การปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แจ้งกำหนดการเดินทางศึกษาดูงาน เรื่อง การศึกษาและติดตามการ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจและชีวิตของ ประชาชน กรณีการเข้ามาของทุนจีนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนใน พื้นที่จังหวัดระยอง
เมื่อเวลา15.00น วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ที่ บริษัท ซินเคอหยวน จำกัด อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เป็นอีก1สาขาที่กำลังจะเปิดโรงงานผลิตเหล็กม้วน และเหล็กแผ่น เนื้อที่ 1262ไร่ ทุนจดทะเบียน 6พันล้านบาท คณะชุดกรรมธิการความมั่งคงแห่งรัฐ ทีมสส.รังสิมันต์โรม ทีมสุดซอย รองผู้ว่าราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจเยี่ยมชมโรงงาน
นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เผยว่า วันนี้ได้มาติดตามเรื่องราวต่างๆของ บริษัทซินเคอหยวน ที่เราทราบกันดีของ สาขาอ.บ้านค่าย ตนก็จะมาติดตามผลและมาพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ ซึ่งสส.ในพื้นที่ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และกระทบต่อความมั่งคงแน่นอน แต่ตนยืนยันจะต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
น.ส. ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (ทีมสุดซอย) เผยว่า ในส่วนของกรรมาธิการความมั่นคง ตรวจได้ทุกมิติ แต่จะต้องตรวจสอบในเรื่องการการลงทุน การประกอบกิจการของชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน ว่ามีการฮั่วกัน หรือไม่ การนำเข้าถูกต้องไหม รวมถึงมีการฟอกเงิน ฟอกฝุ่น กากอุตสาหกรรม หรือไม่ มันมีผลกระทบต่อความมั่นคงแน่นอน ตนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ทีทุกฝ่ายตั้งแต่ ท้องถิ่น รวมกันช่วยตรวจสอบ ซึ่งท่านรัฐมนตรีเอกณัฐ ท่านได้ยกระดับปราบปรามของมาตรฐานสินค้าและไปสู่ปราบอุตสาหกรรม ศูนย์เหรียญด้วย โดยเฉพาะพื้นที่ EEC หากพี่น้องประชาชนมีข้อมูลก็สามารถส่งมาได้ ทางทีมงานจะเข้าไปช่วยตรวจสอบ



นายสุทธิเกตติ์ ทัดพิทักษ์กุล ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เผยว่า ปัญหาจีนเทาศูนย์เหรียญ เรื่องนี้คงต้องนำไปตรวจสอบวิธีการที่เหมาะสม ที่แก้ไขในเรื่องของคนไทยต้องได้ประโยชน์ และอำนวยความสะดวกนักลงทุน ปกติแล้วทางเราจะมีการตรวจสอบในทุกขบวนการของการดำเนินกิจการว่าเป็นไปตามเงื่อนไขที่วางไว้หรือไม่
น.ส.ณัฐภัสสร พัวรุ่งโรจน์ (ชุดขาวใส่แว่น) พนักงาน เผยว่า ตนเป็นตัวแทนขอซินเคอหยวน ยินดีมากๆทีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ และเสนอแนะต่างๆ ทางโรงงานยินดีและพร้อมจะปรับปรุงแก้ไข ซึ่งทางพนักงานเองก็อยากให้หน่วยงานรัฐได้มีการอนุมัติให้เปิดโรงงาน ซึ่งโรงงานที่สาขาปลวกแดง จะเป็นโรงงานผลิตเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผลติน้ำเหล็กได้มากกว่า 18000ตัน เหล็กที่ผลิต จะเป็นผลิตเหล็กรีดร้อน เหล็กแผ่น เหล็กลวด และเหล็กรูปพรรณ โดยเราใช้ขวบการรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบหลัก หลอมเหล็กยืดเหล็กในขบวการสั้น และควบคุมคุณภาพให้ได้ตามมาตรฐานและเทคโนโลยีของเราจะเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน
ณัฐภัสสร พัวรุ่งโรจน์ (ใส่แมส) พนักงานโรงงานเผยว่า ตนขอฝากถึงภาครัฐ ในเรื่องของให้ทางโรงงานผลิตเหล็กเปลี่ยนมาใช่เตาหลอมจาก IF เป็น EF ซึ่งก็เข้าาใจว่าหากภาครัฐให้เปลี่บน ทางโรงงานก็ต้องดำเนินการไม่ใช่นั้นก็ต้องปิด แต่การเปลี่ยนนั้น ใช้เงินลงทุนเยอะ และโรงงานก็ต้องปิดตัวลง ระหว่างนั้น ทางภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือพวกตนอย่างไร พวกตนมีภาระที่ต้องใช้จ่าย และตนก็มองว่า เรื่องของคุณภาพเหล็กนั้นไม่ได้มาจากเตาหลอมไปทั้งหมด ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายส่วน ในเรื่องของวัตถุดิบการปรุงเหล็ก เตาเดิมก็สามารถผลิตเหล็กให้มีคุณภาพได้ แต่ต้องใส่ใจไม่ละเลย และในส่วนของโรงงานตนก็พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขให้ได้ตามมาตรฐาน
โรงผลิตเหล็กในประเทศไทยที่ใช้เตาหลอม IF ให้ประเทศมีประมาณ 14 โรงงานได้ หากจะต้องเปลี่ยนจริงๆ ภาครัฐจะดูและคนงานอย่างไร
ช่วยเห็นใจแรงงานไทยอย่างพวกตนด้วย