เมื่อเจ้ากะถิกจะข้ามถนนมองซ้ายมองขวาจังหวะไม่มีรถก็วิ่งข้ามพอรถมาก็หยุดหันมามองรถจึงวิ่งข้ามต่อทำมาผู้ที่พบเห็นต่างเอ็นดูในความน่ารักของเจ้ากะถิก
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 นางไทรงามคงคางามอายุ 62 ปีเล่าว่าขณะที่ตนกำลังกลับจากทำธุระข้างนอกขับรถมาถึงถนนหนองแตงโม-มาบใหญ่ตำบลทางเกวียนอำเภอกลางจังหวัดระยองสองข้างทางนั้นข้างซ้ายเป็น สวนผลไม้ข้างขวาเป็นสวนปาล์มขณะขณะขับมาเห็นเจ้ากะถิกที่อยู่ทางด้านซ้ายกำลังจะข้ามถนนตนจึงจึงจอดรถเมื่อเจ้าถิตวิ่งมากลางถนนเห็นรถของตนจึงหยุดมองก่อนและพอเห็นว่าตนหยุดรถเขาวิ่งข้ามถนนไปต่อทีแรกตนก็สงสัยว่าเค้าทำอะไรแต่ว่าคิดอีกทีนึงอ๋อกะทิก็เคารพกฎจราจรเหมือนกันก่อนจะข้ามถนนมองซ้ายมองขวาให้ดีก่อนเพื่อความปลอดภัย
นายประเวศ สมหมาย อายุ 57 ปีเจ้าของสวนผลไม้เล่าว่า ที่สวนของตน มีทั้งขนุนและกล้วย ปาล์มก็มีเจ้ากระรอก อยู่ประมาณ5-6ตัว ส่วนเจ้ากระถิกจะมีมีอยู่หลายตัว ส่วนใหญ่ก็ชอบกินผลปาล์มและเมื่อมีขนุนสุก เขาก็จะมากินขนุนกันซึ่งตนก็ไม่ได้ห่วงอะไรเขาเป็นสัตว์ป่าเขาก็หากินตามธรรมชาติแต่เขาจำกลิ่นสาบของมนุษย์ได้เวลาตนมาที่สวน เขาก็จะวิ่งมาดูอยู่ห่างห่างซึ่งส่วนของตนนั้นก็ล้อมรั้วไว้ไม่ได้ให้คนเข้าแต่ถ้าเป็นสัตว์เข้ามากินผลไม้ตนก็ไม่เคยไล่เค้าปล่อยให้เค้ากินไป
อย่างไรก็ตามเจ้ากะถิกที่มองรถก่อนข้ามถนนก็ทำให้คนที่พบเห็นนั้นเอ็นดูส่วนเจ้าของสวนนั้นก็ใจดี มีผลไม้ผลปาล์มก็ปล่อยและแบ่งให้เจ้ากะทิเจ้ากระรอกได้กินโดยที่ไม่ไล่หรือไปรบกวนเขาซึ่งก็เป็นการพึ่งพาอาศัยและอยู่ร่วมกันได้เจ้ากะกะเจ้ากระรอกคงจะทำตัวน่าเอ็นดูน่ารักแบบนี้เจ้าของสวนถึงไม่หวงพืชผลเลย