
ดราม่าแม่แท้ๆ พาลูกหนี แม่บุญธรรม กินไม่ได้นอนไม่หลับ ตระเวนตามหา เสียน้ำตาทุกครั้งที่เห็นของน้องวางอยู่กลัวเอาไปลำบาก เอาไปตี เพราะเคยเอาไปแล้ว เด็กบอกไม่อยากไปล่าสุดพึ่งโดนพ่อเลี้ยงตีมาทำให้แม่บุญธรรมทุกข์เหลือเกินขอร้องพาลูกกลับมาพูดคุยกันจะเอาอย่างไรขอแค่บอกอย่าพาหนี
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 มกราคม 2568 ที่ชุมชนหนองตะพาน ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นางบรรทม คำปรีชา อายุ 51 ปี เล่าว่า ตนได้จ้างคนงานเป็นชาวกัมพูชาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เขามาทำงานเป็นคนสวน เขามีสามีและลูกสาววัย2ขวบครึ่ง เขาได้เช่าห้องแถวอยู่ห่างจากบ้านตนประมาณ 600 เมตร ขณะมาทำงานเขาเอาลูกสาววัย 2ขวบครึ่ง ชื่อน้องน้ำฝน มาทำงานด้วย ตนก็ไม่ว่าอะไร เด็กเห็นตนครั้งแรก ก็วิ่งมากอดมาอ้อน ทั้งๆที่น้องพูดไทยก็ไม่ได้ ตนจึงรักและขอรับเลี้ยงมาโดยตลอดจนตอนนี้น้องพูดไทยได้ และพูดกัมพูชาไม่ได้แล้ว ตนเอามาเลี้ยงดูตั้งแต่ตอนนั้น เอามาอยู่กินที่บ้าน กินนอนด้วยกัน ส่งเรียน รร.เอกชนชื่อดังในระยอง จนตอนนี้น้องมีอายุ 4ขวบครึ่งอยู่ชั้น อนุบาล 2 น้องน่ารักเรียนเก่ง ใครๆก็รักเขา
ก่อนหน้านี้เมื่อตุลาคม ปี 2566 แม่น้องเคยเอาน้องกลับไปกัมพูชาครั้งนึงแล้ว และขโมยรถ3ล้อตนไปด้วย ตนและพี่สาวออกตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เขาเอา จยย.ไปขายตนก็ไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่ สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง โชคดีที่คนที่เขารับซื้อไว้ แจ้งกลับมาที่ตน จากนั้นเขาก็ไปทะเลาะกันที่กัมพูชา โดนสามีซึ่งเป็นพ่อของน้องทำร้าย จนแม่น้องต้องเอาน้องกลับมาไทยอีกครั้ง และเหตุที่ผ่านมาพี่สาวตนไปตามหาจนเจอว่า ไปอยู่ในสวนลำใย ไม่มีน้ำไฟ ช่วงนั้นหายไป 3เดือน น้องได้ยินเสียงพี่สาวตน น้องวิ่งร้องไห้ออกมาหาเลย น้องขอร้องให้พามาด้วยไม่อยากอยู่กับแม่เขาแล้ว ตอนนั้นตนก็ให้อภัย รับกลับมาทำงานอีกครั้ง ไม่เอาเรื่องที่ขโมยรถไป เพราะเห็นแก่น้องน้ำฝน เพราะรักลูกเขา
ครั้งนั้นน้องกลับมาสภาพ ผอม เป็นแผลตามแขนขา ซึ่งตอนอยู่กับตน ตนดูแลอย่างดี เขาทำอะไรไม่ดีไม่เรียบร้อย ตนไม่เคยต่อว่า ได้แต่หันมาทำเอง เพราะกลัวเขาจะเอาน้องน้ำฝนหนีอีก
ล่าสุดวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา ตนให้เขาเลิกงาน 08.00น. (ปกติเขาเริ่มงาน 05.00) เขาบอกขอเอาน้องไปเล่นด้วย เย็นจะเอามาคืน เพราะตนจะพาน้องไปงานกาชาดระยอง พอตอนเย็นตนไปหาเขาที่ห้องแถว เห็นห้องปิดก็นึกว่าเขาเอาน้องไปเที่ยว ก็พยามโทรหาก็ไม่รับ ไม่ติด ตนก็เริ่มใจไม่ดี เพราะเมื่อวานน้องน้ำฝนบอกว่า พ่อเลี้ยงตี ตนก็ยิ่งห่วง พอเช้าตนก็กลับไปหาที่ห้องแถวอีกเปิดดูถึงรู้ว่าเขาพาน้องหนีไปแล้วว ตนไม่ขอกล้องวงจรปิดดู เห็นว่า เมื่อช่วงเวลา 10.20น.มีรถโตโยต้าอแวนซ่าสีดำ ซึ่งเป็นรถของสามีใหม่แม่เขาเป็นคนไทย มารับแม่และตัวน้องออกไป คนที่ห้องแถวเขาเล่าว่า ตอนนั้นที่แม่เขาเอาน้องไปรอบแรก น้องร้องกลับมาหาตน แม่เขาก็ตีเขาตลอด ตนก็ยิ่งใจคอไม่ดี แม่ก็ตีพ่อเลี้ยงก็ตี
ตนของร้องอยากให้แม่น้องกลับมาคุยกัน ทำไมทำแบบนี้ ทั้งๆที่ตนดีและไม่เคยดุด่าเลย เอาน้องไปแบบนี้ จะอยู่กันอย่างไร มาคุยกัน ตนจะให้เงินเอาไว้ตั้งตัวก้อนนึง แต่ต้องมาทำเอกสารให้มันถูกต้องตามกฎหมาย ตนรู้ว่าตนไม่มีสิทธิ แต่ตนรักน้องมาก และน้องก็บอกตลอดว่าไม่อยากกลับกัมพูชา ไม่อยากอยู่กับแม่ ยิ่งถ้าเป็นพ่อจริงๆแล้ว น้องจะกลัวมากเพราะเห็นพ่อตีแม่เป็นประจำ
ถ้าน้องอยู่กับตน ตนส่งเรียนหนังสือ แม่เขาสามารถพึ่งน้องได้แน่นอน และตนไม่กีดกันใดๆ แต่ตนไม่รับแม่เขามาทำงานอีกแล้ว ตนฝากบอกน้องน้ำฝน ถ้าเห็นข่าว โทรกลับมาหาป้านะ ป้ากับแม่จะไปรับ ป้าเขา(พี่สาวตน) เขาจะสอนน้องไว้ให้จำเบอร์โทร เผื่อแม่พาหนีจะได้โทรกลับมาได้
อย่างไรก็ตาม หัวอกแม่บุญธรรม ใจสลายด้วยความเป็นห่วงน้องน้ำฝน ห่วงอนาคตเด็ก ถ้าแม่น้องได้เห็นข่าวก็ขอให้ติดต่อกลับมาจะเอาอย่างไรจะได้คุยกันดีๆ ก็ขอให้ตกลงกันได้ ให้เด็กได้รับประโยชน์สูงสุด