กล้องจับตีกันกลางถนนมาบตาพุดแตก

ฝากก้อนหินเอาไปดูต่างหน้ากับเหตุระทึกแยกตลาดมาบตาพุดหนุ่มหมวกกันน๊อคปะทะเก๋ง หมวกกันน๊อคทั้งเตะถีบ เอาหินปาใส่รถเก๋งไม่ยอมถอยตั้งหลักพุ่งใส่ก่อนเหยียบหนี

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 31 มกราคม 2568 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก R4Racing Channel รวมคลิปรถแรงข่าวเด็ดv4 โพสต์คลิปภาพ รถเก๋งสีเทาถอยหลังเตรียมจะพุ่งชนชาย2 คนใส่หมวกกันน๊อคขี่จยย พร้อมรถระบุข้อความว่า “ยังไม่คอร์นเฟริมว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สถานการณ์เหมมือนทรงแก๊งค์ทวงเงินกู้กับลูกหนี้ยังไงไม่รู้” # ประเทศมาบตาพุดส่งเข้าประกวด หลังโพสต์เผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวสังคมโซเชียล ต่างสนใจ ว่าเกิดอะไรขึ้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุแยกไฟแดงตลาดมาบตาพุด เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ชาวบ้านที่พบเห็นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่รู้มีเรื่องอะไรแต่ตกใจเหมือนกัน
นายบุญดี อายุ 69 ปี เสื้อแดง เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวาน 30 มกราคม เวลา12.17น. รถเก๋งขับอยู่ด้านหน้า พอติดไฟแดง รถจยย.ซ้อนท้ายกันมา 2 คน แต่งชุดดำและสวมหมวกกันน็อคเต็มใบทั้งคู่ คนซ้อนท้ายได้ลงมา ทุบรถเก๋งก่อน จากนั้นรถเก๋งก็ถอยกะว่าจะเหยีบซ้ำ คนซ้อนเขาเลยมาเอาหินที่อยู่ตรงต้นไม้หน้าร้านตนปาเข้าไปที่หน้ารถของรถเก๋ง และเขาก็พากันขับฝ่าไฟแดงไปกันทั้งคู่ ตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มาใช้ความรุ่นแรงแบบนี้ถือว่าไม่ควรทำทั้งคู่เลย มีอะไรใจเย็นๆคุยกันดีกว่า มาแบบนี้ ชาวบ้านก็ตนใจกลัวกันไปหมด ดีที่ไม่โดนรถคันอื่นไปด้วย

จากกรณีที่เกิดขึ้นประชาชนให้ความสนใจ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบขอดูกล้องวงจรปิด จาก จากศูนย์ตอบโต้ และบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองมาบตาพุด
จากภาพจะเห็นว่า รถเก๋งได้ขับออกมาจากซอยข้างตลาดมาบตาพุด เมื่อขับมาติดไฟแดง รถจยย.ขับตามมาคนซ้อนท้ายได้กระโดนลงจากรถมาทุบรถด้านหน้าข้างซ้ายและกระโดดถีบกระจกมองข้าง ทำให้รถเก๋งถอยหลัง ขณะถอยหลังได้ไปเฉี่ยวรถจยย.จนล้มลง รถเก๋งทำท่าจะพุ่งเยียบซ้ำ คนซ้อยท้ายของรถจยย.จึงไปเอาก้อนหินของชาวบ้านมาปาใส่รถเก๋ง ซึ่งก้อนหินก็ยังติดคาอยู่ที่กระจกรถด้านซ้าย จากนั้นก็ขับฝ่าไฟแดงตรงไปยังเมืองระยอง ซึ่งจยย.ก็ขับตามกันต่อไป แต่ก็ได้ฝากก้อนหินเอาไปด้วย (คล้ายๆฝากรอยเท้าเอาไว้)

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณนี้ถือเป็นใจกลางเมืองมาบตาพุด มาก่อเหตุกันแบบนี้ทำเอาชาวบ้านแตกตื่น ดีที่ครั้งนี้ไม่มีประชาชนเขาไปโดนลูกหลงด้วย มีปัญหาอะไรกันใช้สติกันดีกว่า หากตกลงกันไม่ได้โทรแจ้ง ตำรวจให้ช่วยดีที่สุด