หนุ่มกดเงินแล้วคุย โทรศัพท์เพลินไปหน่อย จนลืมหยิบเงินออกมานึกขึ้นได้รีบวิ่งไปดูเงินหายไปแล้วโร่ขึ้นโรงพักเผยสาเหตุตำรวจยังงง
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม 2567 เจ้าที่ตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา จังหวัดระยอง รับแจ้งจาก นายภัทรพงศ์ สุวรรณ หรือ เป้ อายุ 17 ปี เล่าว่า เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา
ตนได้มากดเงินจำนวน 5,000 บาท ที่ตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่งในปั๊มน้ำมันริมถนนสาย 36 มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองระยอง ขณะกดเงินแม่ของตนได้โทรมาพอดีตนจึงคุยกับแม่เพลินจนเดินกลับไปที่รถโดยที่ไม่ได้หยิบเงินออกมาจากตู้
ซึ่งพอมาถึงรถเพื่อนจะเติมน้ำมันรถก็นึกขึ้นได้ ว่ายังไม่ได้หยิบเงินมาจากตู้ ATM จึงรีบวิ่งลงมาดูที่ตู้เอทีเอ็มปรากฏว่าเงินนั้นหายไปแล้วจึงมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามคนที่้เอาเงินไป
กระทั่งต่อมาเช้าวันนี้ตนจึงย้อนกลับมาที่ตู้เอทีเอ็มเพื่อมาถ่ายรูปไปยืนยันกับเจ้าที่ตำรวจว่าตนได้กดเงินที่ตู้นี้จริงโดยนักข่าวแนะนำให้ตนโทรแจ้งคอลเซ็นเตอร์ของทางแบงค์ก่อน
เมื่อตนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคาร ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ตรวจสอบและแจ้งกลับมา บอกว่าตู้ได้ดูดเงินคืนกลับไปแล้ว และไม่มีใครหยิบเงินของตนไปตามที่ตนคิดไว้ทีแรก
ตอนนี้ตนจึงรู้สึกโล่งใจมากที่เงินยังไม่ได้หายไปไหนจึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.นิคมพัฒนาเพราะเจ้าที่ธนาคารแจ้งว่าจะทำการโอนเงินคืนกลับมาให้ ภายใน 24 ชั่วโมง
นางศรีละดา อายุ 52 ปี แม่ค้าขายไส้กรอกอีสานบริเวณตู้เอทีเอ็ม เล่าว่า ตนก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มัวแต่คุยโทรศัพท์ขณะกดเงินลืมทั้งเงินลืมทั้งบัตรเอทีเอ็มจนต้องติดต่อธนาคารขอทำบัตรเอทีเอ็มใหม่ตอนนั้นก็ตกใจมากเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่คุยโทรศัพท์ขณะกดเงินก็ถือให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์โชคดีที่เงินนั้นไม่ได้หายไปไหนแต่ทางตู้ได้ดึงเงินคืนกลับไปไม่เช่นนั้นเงิน 5,000 บาท นี้คงต้องอาศัยเจ้าที่ตำรวจ ช่วยเหลือตามที่พ่อบอกไว้ ว่าคิดอะไรไม่ออกก็ให้ไปหาตำรวจจะดีกว่า
ส่วนสาเหตุในครั้งนี้ เป็นเพราะแม่คุยเพลินไปหน่อยเท่านั้นเองจนเกิดเป็นสีสันของคนในครอบครัวที่ว้าวุ่นจากการกดตู้ ATM แล้วคุยโทรศัพท์เพลินไปหน่อย