


เรื่องราวความรักที่ฝ่ายหญิงขอเลิกก่อนผ่านไปครึ่งปีจะขอกลับมาถ้าฝ่ายชายไม่ยอมจะทุบบ้านพังพร้อมกินยาประชดขอตายที่บ้านหลังนี้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 มิถุนายน 2568 ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง ชาวบ้านตกใจเมื่อสาวปีนเข้าบ้านอดีตสามีทุบกระจกบ้านพัง ทุบกระถางต้นไม้ ทุบรถกระบะ ปล่อยยางรถ รื้อบ้านพังจนหมด ปมฝ่ายชายไม่คืนดี ไม่มีใครกล้าเข้าห้ามกลัวโดนทำร้ายไปด้วย
นางมินท์ อายุ อายุ33 ปี (เสื้อแดงเบลอหน้า) เล่าว่า ตนสนิทกับทางแม่ของบ้านที่เสียหาย คือบ้านน้องไปป์ พ่อแม่เขาย้ายกลับไปอยู่ต่างจังหวัด เหลือน้องไปป์เขาอยู่บ้านกับแฟนเขา แต่ตนก็ไม่เห็นว่าแฟนเขาอยู่บ้านหลังนี้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
จนมาวันนี้ ช่วงเช้า เขามาและปีนเข้าไปในบ้าน เดินไปเอาเก้าอี้หลังบ้านมานั่งอยู่สัก 10 นาทีก็เอาอิฐมอญไปทุบประตูบ้านจนแตกพัง เอามีดมาฟันต้นไม้ ยกกระถางต้นไม้ปาทิ้ง ตนเห็นก็ไม่กล้าเข้าไปห้ามกลัวเขาจะมาทำร้ายตน ได้แต่โทรบอกแม่ของน้องไปป์ และญาติของฝ่ายหญิงก็มา ก็ช่วยกันตะโกนบอกแต่เขาก็ไม่ฟังอะไรเลย อาละวาดอย่างเดียว จนต้องแจ้งตำรวจ สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง ให้มาช่วยระงับเหตุ พอ ตำรวจมาถึงทีแรกก็ไม่กล้าเข้าบ้าน ก็ต้องโทรไปขออนุญาติจากเจ้าของบ้านก่อน จากนั้นก็พาแฟนเขาไป สภ.กัน กว่าจะไปได้ฝ่ายหญิงก็กอดแข้งกอดขาบอกแต่ไม่ยอมเลิก ตนก็ไม่รู้เขาไปเอาแรงมาจากไหน เขาตัวเล็กๆ ทุบต้นไม้ และพังบ้านได้ขนาดนี้
นาย บัณฑิต ปาละวงศ์ อายุ 30ปี หรือ (นายไปป์) เล่าว่า ตนกับแฟนชื่อบี อายุ 31 ปี คบกันได้6 ปี บ้านหลังนี้ตนซื้อกับพ่อ ก่อนจะจดทะเบียนสมรสกับแฟน
ตนรักเขามาก ให้เขาทำงานอย่างเดียว งานบ้านทุกอย่าง ตนเป็นคนทำหมด เพราะตนไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่ก็ไม่อยากให้เขาลำบาก อยู่มาเมื่อกลางปีที่แล้วก็เริ่มระหองระแหงกัน จนเมื่อธันวาคม 2567 แฟนของตนขอเลิกกับตนและเขาก็ย้ายกลับไปอยู่บ้านแม่เขา ซึ่งไม่ไกลจากบ้านตนมาก ตนก็พยายามง้อมาตลอดไปง้อทุกวัน แต่แฟนตนก็ไม่กลับมา และโพสต์ลงโซเชียล เป็นรูปผู้ชายและเขียนข้อความว่า อยากมีตัวน้อยๆ มาวิ่งเล่น ตนเห็นว่าเขาเริ่มต้นใหม่แล้ว จึงตัดใจ
และเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ก็ตกลงไปหย่ากันดีๆ ไม่ได้มีปากเสียงอะไรเลย จากนั้นตนก็เริ่มคุยกับผู้หญิงคนใหม่ได้ 2 อาทิตย์ เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาทราบ แฟนตนก็บอกว่าจะขอกลับมา แต่ตนก็ไม่เห็นด้วย ต่างตนก็ต่างไปเริ่มต้นใหม่แล้ว และระหว่างที่ตนตามขอคืนดี เขาก็ยืนยันจะหย่า วันที่ไปหย่าเขาก็ยืนยันจะเลิกอย่างเดียว
และเมื่อเช้าระหว่างที่ตนทำงานอยู่ เข้าก็มาที่บ้านตนและก็ส่งภาพมาว่า เขากินยาไป 100เม็ด จะนอนตายที่บ้านนี้ ซึ่งน้องสาวเขาก็โทรมาบอกว่าเขาอาละวาดด้วย และตาก็เริ่มลอย ซึ่งตนก็ตกใจมาก ก็รีบลางานกลับมาที่บ้าน มาถึงบ้านก็เละ โต๊ะทำงานเขาก็พังล้ม เสื้อผ้าก็เอาออกมาโยนทิ้งหมด ต้นไม้ ทุบพัง ยางรถยนต์เขาก็ปล่อยลมออก แม้แต่ถังแก๊ส 15 โล ตนพึ่งไปเติมแก๊สมาเอง เขาก็ยกทุบจนกระเบื้องเป็นรู ก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรงมาจากไหน และพื้นก็มีรอยเลือดน่าจะเกิดจากที่เขาทุบกระจกเข้ามาแล้วโดนกระจกบาดเท้า แต่ไม่เยอะ
พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเขาก็ไม่ยอม กอดขาตนไว้ ตนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องให้ตนพาเขาไป สภ.ห้วยโป่งด้วย และเขาก็ไปเป็นลมที่ สภ.ห้วยโป่ง ก็เรียกกู้ภัยมาเพื่อไปส่ง รพ. โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระยอง
แฟนสาวเขาบอกเขากินยานอนหลับไป ซึ่งกู้ภัยมาเขาก็ไม่ยอมขึ้นรถ จับมือกอดตนอยู่ตลอด จนต้องขึ้นรถไปด้วย แต่ก่อนจะไปถึง รพ.เขาก็อาละวาดตลอดทาง บอกให้ตนไปเลิกกับคนใหม่และกลับมาคบกันแบบเดิม โวยวายไม่หยุด จนถึง รพ.
ซึ่งตนก็อยากให้ต่างตนต่างไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ก็กลัวเขาจะกลับมาทำแบบนี้อีก เพราะเขาพูดว่าเขาจะไม่ยอมถ้าตนไม่คืนดีจะทุบบ้านให้พัง ต่อไปนี้ก็คงต้องให้ทางผู้ใหญ่ทางพ่อแม่เขาช่วยดูแลเขาด้วย
ซึ่งบรรดาชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆ ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเขาคลุ้มคลั่งจากสาเหตุอะไร และสงสารฝ่ายชาย กว่าจะทำงานก่อร่างสร้างตัวมาได้แต่ต้องมาเจอข้าวของพังเสียหายจากเรื่องราวความรัก
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ห้วยโป่ง เผยว่า ฝ่ายหญิงเขามาด้วยอาการใจสลาย แต่ก็อยากฝากเตือนว่าตอนรักกันก็ดี ตอนเลิกลากันก็ต่างฝ่ายต่างปล่อยกันไป เริ่มต้นใหม่ รักตัวเองให้มากๆ รักพ่อรักแม่ให้มากๆ
