


ตะกอนน้ำมันดำๆเกลื่อนหาดประมงหวั่นลมสลาตันมาซ้ำจะขึ้นมาอีกเพียบ
ที่ชายหาดแม่รำพึง คราบดำเกลื่อนหาดระยะทางประมาณ1 กิโลเมตร นักท่องเที่ยว ลงเล่นน้ำไม่ได้ หนีกลับจนร้านค้าร้านอาหารเตียงผ้าใบว่างเปล่า ประมงหวั่นลม สลาตันมาซ้ำจะขึ้นอีกเยอะ
เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ที่ชายหาดแม่รำพึง หมู่ 10 ต. ตะพง อ.เมืองระยอง
บริเวณชายหาดนั้นมีคราบดำ (คราบคาร์บอน )เกลื่อนหาดระยะทางยาว500 ถึง 1 กิโลเมตร ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวนั้นไม่กล้าลงเล่นน้ำ และ บางกลุ่มมาถึง ก็ต้องเดินทางกลับทันทีเพราะไม่สามารถนั่งพักผ่อน ได้
นายณรงค์ ท่วมเจริญ อายุ 50 ปี เล่าว่า สีดำๆที่เห็นนั้นเป็น คราบคาร์บอนคราบตะกอนน้ำมัน ที่เคยรั่วไหล ตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งระยะหลังช่วงนี้คราบตะกอนนั้น ได้ขึ้นมาเกลื่อนหาดซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมากๆ
นางสริตา อักษรศรี อายุ 49 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เผยว่า คราบดำๆที่มันขึ้นมาตนก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามา ดูแล และก็ยังกังวลว่าสัตว์น้ำ ในทะเลนั้นจะกินตะกอนพวกนี้ไปหรือเปล่า หรือตะกอนพวกนี้มันเป็นผลทำให้สัตว์น้ำลดน้อยลงอีกหรือไม่
นายวรวุฒิ คงณรงค์ อายุ 54 ปี (ใส่หมวก)ชาวประมงในพื้นที่เผยว่า ตนไม่มั่นใจว่าคราบดำๆนี้เป็นคราบอะไรกันแน่ หลังจากเกิดน้ำมันรั่วไหล เมื่อปี 2565 คราบตะกอนนี้ก็ขึ้นมาบ่อยมากๆ และมาปีนี้ขึ้นเยอะมากจริงๆ ซึ่งลักษณะเหมือนก้อนคาร์บอน เมื่ออาทิตย์ก่อนนั้นตนเจอก้อนนึงใหญ่มากน่าจะประมาณ 3 กิโลกรัมได้ แต่วันนี้เป็นก้อนละเอียดๆเล็กๆ ซึ่งตั้งแต่มีเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งนั้นก้อนคาร์บอนนี้ก็จะขึ้นมาบ่อยยิ่งช่วงนี้ฝนตกมรสุมจะขึ้นมาเป็นจำนวนมาก และที่น่าห่วงจนเป็นกังวลต่อจากนี้คือลมมรสุมทางตะวันตกเฉียงใต้ ที่ชาวประมงจะเรียกว่าหน้า ลมสลาตัน (สะ-หลา- ตัน ) คาดว่าก้อนคาร์บอนพวกนี้จะขึ้นมา เป็นจำนวนมากอีก ซึ่งตนมองว่า นี่หรือเปล่าที่ ไร้การควบคุมอุตสาหกรรมจากภาครัฐ
ที่อะไรที่กดไว้อยู่ใต้ทะเลพอมรสุมลมมา ก็พัดขึ้นมาให้ประชาชนได้เห็นกัน ซึ่งตนมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้นั้นคือต้นเหตุทำให้ทรัพยากรทางธรรมชาติต่างๆ เลือนหายไปอีกทั้งยังรวมถึงอาชีพประมงพื้นบ้านอย่างพวกตนอีกหน่อยก็คงไม่มีกันแล้ว
อย่างไรก็ตามตนขอฝากถึง ทุกภาคส่วน ขอให้ช่วยดูแล รักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างจริงจังด้วย
ด้านองค์การบริหารส่วนตำบลตะพง (อบต.ตะพง) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยดูแลและเก็บกวาดคราบคาร์บอน บริเวณพื้นที่ชายหาดแล้ว
ดูคลิปกดลิงค์