


ดูคลิปกดลิงค์ ด้านล่าง
https://www.facebook.com/share/v/17GQPU6Mgv
โจรแสบบุกปล้นโรงงานกัญชา ใช้อาวุธปืนและจับ คนงาน มัดไว้ก่อน ขับหนีฝ่าด่านตำรวจอุตลุด แต่ไปไม่รอดจับได้ 3 ราย หนี อีก 3 ราย
ชาวบ้านเผย ต้องเป็นคนที่เคยเข้าออกได้ เพราะโรงงานนี้เป็นแบบปิด ใครจะเข้าออกต้อง แจ้งให้คนข้างในทราบก่อนเพื่อออกมาเปิดประตู
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ที่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
เกิดเหตุคนร้ายปล้นโรงงานกัญชา โดยเหตุการณ์ เกิดขึ้นกลางดึกของคืนวันที่ 6 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา
กลุ่มคนร้าย 6 คน พร้อมด้วยอาวุธปืนบุกเข้าปล้นโรงงานกัญชาแห่งหนึ่ง ในอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
จากนั้นได้มัด มือมัดเท้า พนักงานในโรงงานไว้และ ขนเอากัญชา คาดว่าน่าจะหลาย 100 กิโลกรัมขึ้นรถกระบะ แล้วแยกย้ายหนีขึ้น ทางด่วนมอเตอร์เวย์จากบ้านฉางมุ่งหน้าไปจ.ชลบุรี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านฉาง ตำรวจภูธรสืบจังหวัดระยอง และ สืบภาค 2 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้สกัดจับ รถต้องสงสัยดังกล่าว
กระทั่งเมื่อเวลา 8.00 น.(วันที่ 7 ตุลาคม)เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับรถติดตามรถต้องสงสัยไป จนถึงทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 กม.91 มุ่งหน้า กรุงเทพฯ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มาสด้า สีดำ ทะเบียน กฉ 2446 ยโสธร จอดรถอยู่ไหล่ทางรออยู่ แล้วรถยนต์ ยี่ห้อ MG ได้ขับขี่ไปจอดด้านหลังรถยนต์กระบะ
จากนั้นคนในรถ MG ได้นำของต้องสงสัยไปยังรถกระบะมาสด้าแล้วได้ขับขี่หลบหนีฝ่าด่านพนัสนิคม 2 ออกไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้ขับขี่รถติดตามมาจนสามารถสกัดรถไว้ได้ในพื้นที่ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี
ตรวจพบมีผู้ต้องหา จำนวนทั้งหมด 6 คน คือ นายทรงยศ ปิติสม,
นายนริศร ศรีทัตพันธุ์
และ นายอารยะ สุขเกษม
ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน ได้วิ่งหลบหนีไป
จากการตรวจค้นพบ 1.อาวุธปืน ขนาด .38 super ยี่ห้อ Colt
จำนวน 1 กระบอก (มีทะเบียน)
- อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อ TAURAS จำนวน 1 กระบอก (มีทะเบียน)
- อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อ smith & Wesson ไม่พบหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก
- อาวุธปืน ไทยประดิษฐ์ ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก
- ซองใส่กระสุน จำนวน 2 ซอง
- กระสุนปืน ขนาด .38 มม. SUPER จำนวน 9 ลูก
- กระสุนปืนลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 12 ลูก
- กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 6 ลูก
- กระสุนปืนลูกซอง จำนวน 4 ลูก
10 ช่อดอกพืชกัญชา บรรจุในถุงพลาสสติกใส จำนวน 117 ถุง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา
ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
และจากการสอบสวนนั้นทราบว่า พนักงานที่ถูกมัดไว้นั้นประมาณ 4คน ช่วยกันพยายามแกะ เชือกที่มือและเท้ากันเอาเอง และรีบโทรแจ้งเจ้าของโรงงาน
ด้านชาวบ้านนั้นเผยว่า ปกติแล้ว โรงงานนี้จะเป็นระบบปิดบุคคลทั่วไปไม่สามารถเข้าไปได้เพราะประตูเขาปิดอยู่ตลอดเวลา บางทีเห็นรถมาจอดอยู่บีบแตร 2 ที่ ประตูโรงงานเขาก็จะเปิด และเข้าไปได้ ทีละคันหรือบางครั้ง เด็กข้างในโรงงานก็มาเปิดประตูรอ จากนั้นก็มีรถขับผ่านเข้าไป ซึ่งวันที่เขามาปล้นกัน เหตุการณ์ปกติมากไม่มีเสียงดังเอะอะโวยวายอะไรเพราะตนก็ยังนั่งกินข้าวกันอยู่ จนถึง4ทุ่ม
ซึ่งมั่นใจว่าคนที่เข้าไปปล้นนั้นน่าจะเป็นคนที่รู้จักและคุ้นเคยกันอย่างดีถึงสามารถเข้าไปได้
ตำรวจขยายผลคดีกัญชา 117 ถุง พบถูกขโมยมาจากโรงงานปลูกกัญชา คนร้ายบุกใช้ปืนจ่อ มัดมือมัดเท้าพนักงาน ก่อนขนของหลบหนี มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
ตำรวจทางหลวงอ่อนนุชจับผู้ต้องหา 6 คน พร้อมของกลางอาวุธปืน เครื่องกระสุน และกัญชา 117 ถุง ล่าสุดตำรวจสอบสวนขยายผล
ตำรวจสอบปากคำนายจีน(นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ให้การว่าตั้งบริษัทปลูกและขายกัญชาร่วมกับชายชาวจีน ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พนักงานแจ้งว่ามีคนร้าย 3 คน บุกเข้าห้องพัก ใช้ปืนจ่อหน้าผาก บังคับให้นอนหมอบ ก่อนมัดมือมัดเท้า ปิดไฟ แล้วใช้ของแข็งทุบกระจกห้องอื่นอีก 3 ห้อง ขนกัญชา 100 กิโลกรัม มูลค่าราว 2 ล้านบาท หลบหนีไป
.
ส่วนชายชาวจีนหุ้นส่วนผู้เสียหายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ได้พาหญิงชาวเวียดนาม 3 คน มาดูกัญชาที่โกดัง และพบว่าจุดที่คนร้ายขโมยของไป คือจุดเดียวกับที่กลุ่มหญิงชาวเวียดนามเข้ามาดูก่อนหน้า
.
ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างเรียกสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป .


























