ชาวบ้านผวาโจรชีเปลือยงัดเข้าตึกแก้ผ้าฉกทรัพย์สินมาแล้วสองรอบล่าสุดเดินห้อยโทงเทง เหมือนช้อปปิ้งมือเกาตูดแบบสบายใจวอนเจ้าที่ตำรวจเร่งรัดจับกุมชาวบ้านผวาไปหมดแล้ว
เมื่อเวลา12.00น วันที่15 ตุลาคม 2567 นายไพศิษฐ์ เจ้าของตึก สำนักงาน แห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลเนินพระ อำเภอเมืองระยอง เล่าว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตึกของตนได้ถูกโจรเข้ามางัดแงะขโมยของแล้วหนึ่งรอบโดยรอบแรกข้าวของถูกรื้อกระจัดกระจายสายไฟสายทองแดงของแอร์ก็ถูกตัดออกไป ที่สำคัญกล้องวงจรปิดถูกตัดสายไฟออกจึงบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายไม่ได้ ไม่ทราบเวลาที่แน่ชัดว่าเข้ามาช่วงใด แม่บ้านเข้าไปทำความสะอาด ช่วง 9 โมงเช้าถึงพบร่องรอยของโจร จึงถ่ายภาพข้าวของเสียหายเพื่อเอาไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ค่าความเสียหาย ประมาณ 50,000 บาท มีพระเครื่องเครื่องแก้วต่างๆสายไฟสายทองแดงและประตูที่เขางัดเข้ามาพังเสียหายจึงเข้าแจ้งความไว้กับเจ้าที่ตำรวจสภ. เมืองระยอง
*** ต่อมาวันที่ 14 ตุลาคม 2567 เวลา 00.13นาที โจรเป็นชายมีหนวดมีรอยสักที่แผ่นหลังและที่แขนซ้ายคาดว่าน่าจะเป็นรูปมังกร รูปร่างผอมสูง ปีนเข้ามาที่ตึกของตนเป็นครั้งที่สองรอบนี้กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ชัดมาก
โดยพฤติการณ์ของเขาจะเข้าตึกข้างๆที่ไม่มีคนอยู่และงัดประตูเข้ามาจากบริเวณชั้นสามของตึก
ภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นบริเวณชั้นหนึ่ง โจรเดินแก้ผ้าลงมารื้อข้าวของเปิดตู้เย็นหาของกินน้ำอัดลมกาแฟแล้วมีร่องรอยมานอนพักบนโซฟาด้วย
ซึ่งตนเห็นนั้นตกใจมากว่าเขาแก้ผ้าทำไม ต่อมาเวลา00.26นาที เขา เปิดประตู เข้ามา ในบริเวณห้องประชุมชั้น2เขาใส่กางเกงยีนส์ขายาวและสะพายกระเป๋า ในกระเป๋านั้นเขามีการขโมยพระเครื่องที่อยู่บนหิ้งพระชั้นหนึ่งออกมาแล้ว เดินเปิดประตูห้องโน้นห้องนี้อย่างสบายใจแล้วเข้าไปที่ห้องนอนไปค้นเสื้อผ้าของตนเอามาใส่ชุดไหนไม่ชอบก็ถอดทิ้งเอาไว้ จากนั้นก็หยิบพวกโล่รางวัลต่างๆที่ทางบริษัทมอบให้ตนเอาไปด้วย
โดยพฤติกรรมของโจรรายนี้ชิวมากๆปีนเข้ามารื้อข้าวของขโมยของในตึกของตนแถมอาบน้ำ กินของในตู้เย็นและนอนพักผ่อนอีกต่างหาก ซึ่งตู้เย็นเปิดแล้วก็ไม่ปิดคาดว่าน่าจะเอาแสงไฟจากตู้เย็นจนทำให้ตู้เย็นพัง
ตนแปลกใจมากกล้องวงจรปิดของชั้นสามวันอื่นสามารถดูได้แต่วันที่โจรเข้ามานั้นดูไม่ได้เลยเขาน่าจะตัดสายวงจรออกไปและทีวีของตนเขาก็เตรียมจะขนออกมีการเอาหมอนมารองไว้ยังวางคาไว้อยู่ที่คอมเพรสเซอร์แอร์ของชั้นสาม คาดว่าเขาไม่สามารถขนออกไปได้ ซึ่งรอบนี้มูลค่าความเสียหายค่อนข้างมากเพราะมีคอมพิวเตอร์หายไปด้วย
ส่วนมูลค่าความเสียหาย ทั้งสองรอบน่าจะประมาณ 200,000 บาท ซึ่งช่างแอร์ก็บอกกับตนว่าเขาเป็นมืออาชีพเพราะว่าตัดสายทองแดงของแอร์ออกไปนั้นไม่ใช่ โจรทั่วไปอย่างแน่นอน
ตนขอร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับโจรรายนี้ให้ได้เพราะพฤติการณ์แก้ผ้าเดินในตึกนั้นมันน่ากลัวมากๆซึ่งชาวบ้านที่อยู่ละแวกนี้เค้าก็กลัวกันมากเพราะมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นผู้หญิงอยู่กันตามลำพัง ซึ่งตนมองว่าบุคคลนี้เป็นอันตรายต่อประชาชนมากๆ
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสองครั้งโชคดีที่แม่บ้านของตนไม่ได้นอนเฝ้าตึกและตอนนี้แม่บ้านก็ไม่กล้าเข้ามาทำความสะอาดที่ตึกเลยเพราะเขามองว่าไม่มีความปลอดภัย
นายไพศิษฐ์ ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวความเชื่อส่วนบุคคลอีกว่า ตนยังโชคดีที่พระหลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อโสธรและหลวงปู่ทิม ที่โจรนั้นไม่ได้ลักขโมยเอาไป ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นเพราะได้ไหว้บูชาขอพรจากท่านเสมอว่าขอให้ช่วยดูแลปกป้องทรัพย์สินซึ่งหากหลวงพ่อทั้งสามองค์นี้โจรเอามูลค่าความเสียหายจะตกไปอีกหลายแสนบาทเลยทีเดียว
ท้ายนี้ตนรู้สึกว่ามนุษย์นั้นไม่สามารถพึ่งได้เลยตนจึงได้บอกเจ้าที่เจ้าทาง ให้ช่วยปกปักรักษา อย่าให้มีเหตุเภทภัยไม่ดีเข้ามา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าท่านเจอโจรชีเปลือยท่านจะยังอยู่หรือไม่หรือว่าตกใจโจรแก้ผ้าจนหนีหายไปแล้ว
สรุปค่าความเสียหายทั้งสองครั้ง 1. พระเครื่องที่ตนสะสมและบูชามาจำนวนหลายองค์ซึ่งจำไม่ได้ว่ามีกี่องค์กันแน่ 2. เครื่องแก้วที่ซื้อมาตั้งไว้ในตู้โชว์ 3. โล่รางวัลต่างๆที่ทางบริษัทมอบให้ 4. สายไฟสายทองแดงคอมเพรสเซอร์แอร์ที่โจรตักขโมยเอาไป 5. ประตูชั้นสามที่โจรได้งัดเข้ามาภายในตึกพังเสียหาย
ย่างไรก็ตามตนขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามโจรชีเปลือยรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้เพราะชาวบ้านหวาดผวากับโจรแก้ผ้ารายนี้กันอย่างมากมาย